โฆษกสำนักนายก เปิดเผยว่า ประยุทธ์ สั่งเร่งพัฒนา รถไฟอุดรธานี-หนองคาย รองรับรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง ลาว-จีน นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาโลจิสติกส์ระบบรางของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านสถานีรถไฟอุดรธานี-หนองคายที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการส่งออกแห่งใหม่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้การขนส่ง เกิดความก้าวหน้า มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การใช้งานของประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทางการเกษตรของผู้ประกอบการไทยที่กำลังได้รับความนิยมในภูมิภาค
จากภาพรวมอัตราการส่งออกของไทยระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2565
ที่ผ่านมาขยายตัวสูงกว่า 13.7% รวมมูลค่า 97,122 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าการเกษตร สินค้าเกษตรอุตสาหกรรม และสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งการส่งออกสินค้าทางการเกษตรของไทยยังคงครองตลาดในจีนต่อเนื่อง อาทิ ทุเรียนหมอนทอง หมอนยางพารา ผ้าไหมไทย ข้าวมอลต์ ยางมะตอย เม็ดพลาสติก และอาหารไทยชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน พร้อมกับที่รถไฟความเร็วสูงระหว่าง สปป.ลาว-จีน ได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว จึงเป็นโอกาสของไทยในการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ เอื้อต่อการส่งออกสินค้าผ่านรถไฟจากไทยไปจีนยิ่งขึ้น ขณะนี้การขนส่งทางรถไฟความเร็วสูงจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่า
นายธนกรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีติดตามและสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก อีกทั้งมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพระบบโลจิสติกส์ไทยให้ก้าวหน้าและพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในอนาคต
รวมทั้งขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาและหามาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง และขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมบูรณาการการทำงานให้สอดคล้องตามแนวนโยบายทางการค้าและยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งอย่างเคร่งครัด มีประสิทธิภาพ และให้เกิดเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2565 นี้ จึงเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือในประเด็นนี้ โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
‘ศรีสุวรรณ’ รับ หมั่นไส้แฟนคลับชัชชาติ ปมโพสต์เปรียบไส้เดือนชักดิ้นชักงอ
ศรีสุวรรณ รับ หมั่นไส้แฟนคลับชัชชาติ ที่ออกมากดดันให้ กกต. รีบลงมติรับรอง แม้ผ่านไปไม่กี่วัน กรณีโพสต์เปรียบไส้เดือนชักดิ้นชักงอ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ในช่วงสัปดาห์มาได้มีกรณีพิพาทกับนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยถึงกรณีที่ร้องเรียนนาย ชัชชาติ และเผยว่า หมั่นไส้แฟนคลับชัชชาติ
โดยนายศรีสุวรรณระบุว่า นายชัชชาติเป็นบุคคลสาธารณะ หากไม่อยากให้ถูกร้องเรียนก็ควรนอนเกาพุงที่บ้าน และส่วนกรณีที่โพสต์ข้อความเรื่องขอให้แฟนคลับนายชัชชาติชักดิ้นชักงอเป็นไส้เดือนนั้น ยอมรับว่าเป็นเพราะความหมั่นไส้ ที่ออกมากดดันให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รีบลงมติให้คำรับรองผลการเลือกตั้ง ทั้งที่เวลาผ่านไปไม่กี่วัน
ขณะที่ในปัจจุบันแคมเปญเรียกร้องถอดถอนศรีสุวรรณ บนเว็บไซต์ change.org ทะลุ 1 แสนรายแล้ว
ม.จ.จุลเจิม ร้อง ชัชชาติ ผู้ว่าป้ายแดง แก้ปัญหาคลองแสนแสบ ส่งกลิ่นเหม็นและดำมากอีกแล้ว ยกผู้ว่าคนเก่าทำดีแล้ว
ม.จ.จุลเจิม ยุคล ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ฝากข้อความถึง นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพคนใหม่ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดย ม.จ.จุลเจิม อยากให้ ผู้ว่าชัชชาติ แก้ปัญหาน้ำในคลองแสนแสบ พร้อมยกว่า ผู้ว่าคนก่อนทำดีแล้ว
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ท่านผู้ว่า ชัชชาติ ครับ น้ำในคลองแสนแสบ ส่งกลิ่นเหม็นและดำมากอีกแล้วครับ……..ช่วยแก้ปัญหาให้หน่อย ในอดีต ท่านผู้ว่าคนเก่าทำมาดีแล้ว”
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี มีอีกกระแสหนึ่งที่เริ่มเติบโตขึ้นในกภูมิภาคนี้ รวมถึงกระแสโลก คือการเติบโตและรุกคืบเข้ามาของลัทธิคอมมิวนิสต์ ซึ่งลัทธิดังกล่าวเป็นสิ่งที่ชนชั้นนำไทยและฝ่ายอนุรักษ์นิยมหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก ดังเห็นได้จากบทเรียนของประเทศเพื่อนบ้านที่ล้มครืนเป็นโดมิโน่ไล่มาเวียดนาม เขมร และแนวความคิดนี้ส่วนหนึ่งในแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มปัญญาชนมหาวิทยาลัย
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง