ธนาคาร เตรียมผ่อนคลาย เวลาให้บริการ – มาตรการโควิด-19

ธนาคาร เตรียมผ่อนคลาย เวลาให้บริการ – มาตรการโควิด-19

ทางสมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ได้ประกาศพ้องถึงการเตรียมผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และปรับ เวลาให้บริการ ของ ธนาคาร ใหม่ (1 ก.ค. 2565) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) ได้ทำการประกาศแถลงการถึงการเตรียมความพร้อมในการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 พร้อมทั้งการปรับ เวลาให้บริการ ของ “ธนาคาร” ต่าง ๆ ใหม่ ตามแนวทางของรัฐบาล

โดยประกาศของทางสมาคมธนาคารไทยก็เป็นไปดังนี้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลาย และภาครัฐได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงได้ร่วมหารือและพิจารณาแนวปฏิบัติสำหรับงานบริการภาคธนาคารให้สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ โดยมีแนวทาง ดังนี้

1. ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการ ปรับเวลาเปิด-ปิดทำการสาขา ตามความเหมาะสม โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาและเวลาทำการ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสาขา เว็บไซต์ หรือติดต่อผ่าน call center ของแต่ละธนาคาร

2. ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการ จำกัดจำนวนลูกค้าในสาขา ตามความเหมาะสม แต่ยังขอความร่วมมือลูกค้าผู้ใช้บริการให้เว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย ขณะทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสาธารณสุขของลูกค้าและผู้ใช้บริการ โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และมีมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป พร้อมยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าประชาชน ให้ก้าวผ่านทุกวิกฤตไปด้วยกัน

ทางด้านของะสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) นั้นก็เป็นดังต่อไปนี้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลาย และภาครัฐได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดนั้น สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินสมาชิก พร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว จึงได้มีแนวทางปฏิบัติสำหรับการให้บริการลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ เพื่อลดผลกระทบในการใช้บริการต่อลูกค้าประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีการดำเนินการดังต่อไปนี้

1. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการปรับเวลาเปิด-ปิดทำการสาขา ตามความเหมาะสม โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาและเวลาทำการ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสาขา เว็บไซต์ หรือติดต่อผ่าน call center ของแต่ละแห่ง

2. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแต่ละแห่งจะพิจารณาผ่อนคลายการจำกัดจำนวนลูกค้าในสาขาตามความเหมาะสมแต่ยังขอความร่วมมือลูกค้าผู้ใช้บริการให้เว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย ขณะทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร

ทั้งนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐและสถาบันการเงินสมาชิก ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสาธารณสุขของลูกค้าและผู้ใช้บริการ โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และมีมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยยังคงแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม และการเดินทาง รวมถึงยังสามารถติดต่อใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ Call Center Line@  Facebook  Website และ Mobile Application

รัฐบาล เตรียมโอน เงินช่วยเหลือพิเศษ เข้า บัตรคนจน ก.ค.นี้

รองโฆษกรัฐบาล เผยถึงการดำเนินการโอนเงินเข้า บัตรคนจน ประจำเดือน ก.ค. พร้อมทั้งการโอน เงินช่วยเหลือพิเศษ ภายในเดือนเดียวกัน

เงินช่วยเหลือพิเศษ บัตรคนจน – วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการกำหนดวันโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจากเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

ทุกวันที่ 1 ของเดือน กรมบัญชีกลางโอนเงินฯ วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาท ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ก.ค. – ก.ย 65) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล) วงเงินดังกล่าว ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

ทุกวันที่ 15 ของเดือน กรมบัญชีกลางโอนเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 – ก.ค. 65) จะได้รับการโอนเงินเข้าบัตรฯ ตั้งแต่เดือน เม.ย – ก.ย. 65) ซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

ทุกวันที่ 18 ของเดือน กรมบัญชีกลางโอนเงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนเกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง) ซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า